เมื่อเวลา 13.30น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผุ้กำกับ สน.หนองแขม และ พ.ต.อ.พีรศักดิ์ ภืญโญ ผุ้กำกับ สส.บกน.9 พร้อมฝ่ายสืบสวนได้ตามจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์หรือรับของโจร รวม4คน 1ในนี้มีเยาวชนอายุ14ปี1คน ตามไปจับได้ที่ห้องพักห้องที่2 เลขที่84 ซอยประชาอุทิศ32 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางหลายรายการ 

รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็ก 1คัน

รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ110

แผ่นป้ายทะเบียน และอุปกรณ์รถจักร์ยานยนต์ 32 ชิ้น และเครื่องมือไขควง

และเสื้อที่ใส่ในวันก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62 เวลา 03.30 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขมได้รับแจ้งจากนายสัญญา สืบสันต์ อายุ 32ปี อาชีพ เป็นนักดนตรี ย่านหนองแขม ได้เข้ามาแจ้งว่ามีขณะเดินทางกลับที่พักและได้จอดรถพักข้างทางบรีเวณหน้าร้านก๋วยเตี้ยวดุดี ถนนเลีบยคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ มีคนร้ายจำนวน3คน ได้เข้ามาร่วมกันทำร้ายร่างกายชกต่อยแล้วชิงเอารถจักรยานยนต์ไป ต่อมาฝ่ายสืบสวนหนองแขม และ สืบ 9 จึงลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรจนสามารถติดตามจับกุมจนทำให้ทราบชื่อต่อมาคือ

1.นาย กมลชัย หรือหมู จีนรอด อายุ 41 ปี เก็บของเก่า เคยต้องโทษคดีเสพ 3 ครั้ง พันโทษเมือเดือน มกราคมที่ผ่านมา

2.นายพลชัย หรือเค จีนรอด อายุ19ปี

3.นาย ชูชาติ หรือดำ พงษ์บ้าน อายุ 30ปี ไม่มีอาชีพ เคยต้องโทษคดีเสพ3ครั้ง พันโทษมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

4.เยาวชนชายอายุ14ปี

จากการติดตามจับกุมในครั้งนี้ พบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาย1คนมีลักษณะพิการขาขวาขาด (ขาด้วน ) จากการสอบสวน ทราบว่านายกมลชัย(ชื่อเล่น) หมู ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งค์

โดยนายหมู ให้การว่าคืนวันที่29 พค.ที่ผ่านมา ในวันก่อเหตุตนกับลูกชาย ชื่อเค และนายดำ และนายA(นามสมมุติ)เยาวชน

ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง วันเกิดเหตุตนและพวก4คนขับขี่รถจัดรยานยนต์จำนวน2คันออกตระเวนจากประชาอุทิศ 32 เพื่อหาเหยื่อ โดยวิ่งมาตามเส้นทางพระราม2 เข้าพระราม2ซอย 100 ถนนพรหมราษฎร์ และได้แวะหน้าหมู่บ้านเอี่ยมอัมพรแต่ไม่พบเหยื่อ จากนั้นได้เข้ามาในซอยหมู่บ้านพระปิ่น5 และได้จอดรถบริเวณหน้าร้านขายอาหารสัตว์เพื่อมองหาเหยื่อประมาณ 10 นาที แต่ไม่พบเหยื่อ และจากนั้นได้ขับมุ่งหน้าไปยังซอยบ้านนายเหรียญ(บางบอน4) และได้พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สปร์คสีดำ-ทอง จอดอยู่จึงทำการขโมยรถมา หลังจากนั้นขับมาจนถึงเซเว่น บริเวณกลางซอยบางบอน3 จึงนำรถของตนเอง ยี่ห้อเวฟ สีน้ำเงินจอดทิ้งไว้ จากนั้นขับรถมุ่งหน้าไปยังเลียบคลองภาษีฝั่งเหนือจนมาถึงวัดนางสาว สมุทรสาคร รถที่ขโมยมา ยามาฮ่า สปาร์คเกิดเครื่องดับจึงจอดรถทิ้งไว้ จึงต้องพากันซ้อนท้าย4คน มุ่งหน้าไปยังถนนเศรษฐกิจเขตกระทุ่มแบน ขณะขี่มานั้นยางรถแตก และได้ไปพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 สีแดง จอดอยู่ ตนจึงขโมยรถคันดังกล่าวมา จากนั้นได้ขับวนกลับไปเส้นทางเดิมจนไปพบรถของนายสัญญา สืบสันต์ (ผู้เสียหาย ) ขณะค่อมรถอยู่ จึงจอดและได้ลงไปมีนายดำ นายเค และนายA เยาวชนทำร้ายร่างกายนายสัญญา แล้วชิงเอารถของผู้เสียหายมาแล้วขับกลับไปเอารถที่จอดทิ้งไว้ ที่เซเว่นกลางซอยบางบอน3 แล้วรีบมุ่งหน้ากลับไปที่พักย่านประชาอุทิศ จากการสอบถามผู้ต้องหา นายดำและนายหมู ก่อนหน้านี้รถที่ขโมยมานำไปขายให้กลุ่มพรรคพวก ย่านบางปลา สมุทรปราการ ในราคา 2000บาท เงินที่ได้มาแบ่งกัน บางส่วนนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุในพื้นที่สน.บางขุนเทียน, สน.บางยี่เรือ,สน.บางบอน และสภ.กระทุ่มแบน จากการสอบถามนายกมลชัย หรือหมู(ผู้ต้องหา)ให้การว่า ตนและนายพลชัยหรือเค (ผู้ต้องหา)เป็นพ่อลูกกัน สำหรับนายกมลชัย ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขายผลไม้ ย่านประชาอุทิศ ได้ประสพอุบัติถูกรถเก๋งชน เมื่อปี 57 จึงต้องตัดขาทิ้ง ตนกับนายดำรุ้จักกันในเรือจำในคดีเสพออกจากเรือนมาเมื่อมกราคม ก็ชวนกันมาตระเวณถ้าพบรถจักรยานยรต่จอดก็จะขโมยแล้วนำไปขายหาเงินใช้ ตร.แจ้งข้อหา ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร

เบื้องต้นจึงถูกเจ้าหน้าแจ้งข้อกล่าวหา”ร่วมกันปล้นทรัพย์และรับของโจร”ก่อนจะถูกจับกุมเพื่อนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

หนุ่มอินไซด์ทีวีและออนไลน์ประจำ บช.น. รายงาน​

 

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *