การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักการจัดงานปั่นท่องเที่ยว ในกิจกรรม “ปั่นปันรัก พักภาคใต้” ชวนนักท่องเที่ยวที่รักการปั่นไปปั่นจักรยานเที่ยวใน 3 จังหวัดภาคใต้ เริ่มต้นด้วย จังหวัด สงขลา วันที่ 6 กันยายน 2563 และกำลังจะไปปั่นที่จังหวัดสตูล วันที่ 13 กันยายน 2563 หลังจากนั้นจะไปจบที่สนามสุดท้าย จังหวัด ตรัง วันที่ 20 กันยายน 2563 ร่วมสนับสนุนโดย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด โดยมอบประกันอุบัติเหตุให้นักปั่นทุกคนที่มาร่วมปั่นในโครงการนี้ รวมถึง แลคตาซอย, กาแฟพันธ์ไทย, แปรงสีฟันเดนเทอร์ อีกด้วย

โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมุ่งหวังว่าการปั่นจักรยานท่องเที่ยวครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ ประชาชนเล่นกีฬาออกกำลังกาย โดยการปั่นจักรยานท่องเที่ยว ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดีต้านภัยไวรัส รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มีไลฟ์สไตล์การปั่นจักรยานท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะการปั่นจักรยานท่องเที่ยว ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเพื่อเป็นแรงผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด เพื่อนำรายได้บางส่วนมาสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตั้งใจทำเพื่อช่วยเหลือสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้น

นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว กล่าวว่า “กิจกรรม ปั่นปันรัก พักภาคใต้” เป็นกิจกรรมส่งเสริม Sport Tourism ในภูมิภาคภาคใต้ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจัดใน สามจังหวัด ภายในเดือนกันยายนนี้ ขอให้ผู้ร่วมปั่นจักรยานท่องเที่ยวทุกท่าน “มีชีวิตสนุก สุขภาพแข็งแรง”

สำหรับเส้นทางปั่น 48 กิโลเมตร ที่จังหวัดสตูลในครั้งนี้ จะมีจุดนัดพบที่องค์การบริหารส่วนตำบลละงู เวลาตีห้าครึ่ง 05.30 น. หลังจากนั้นพิธีการจะเริ่มช่วงเวลา หกโมงครึ่ง 06.30 น. ปล่อยตัวนักปั่นออกจากจุดสตาร์ท ในเวลาเจ็ดโมงเช้า 07.00 น.

แล้วจะปั่นไปพักที่จุดแรกที่ PAKBARA VIEWPOINT (ปากบาราวิวพอยท์) ถือเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไปมา เพราะจุดนี้เป็นเส้นทางสู่ท่าเทียบเรือปากบารา ใกล้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ก่อนเดินทางลงสู่เกาะสู่ทะเล ผู้คนจำนวนมากต้องแวะที่นี่ก่อน สถานที่แห่งนี้ ได้มีการสร้างจุดเช็คอินถ่ายรูป ปลากระโทงร่มยักษ์ พร้อมกับคำว่า PAKBARA VIEWPOINT (ปากบาราวิวพอยท์) เป็นภาษาอังกฤษตัวขนาดใหญ่เด่นสง่า เพื่อเพิ่มจุดขายให้นักท่องเที่ยวได้แวะชมวิว ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นั่งพัก เดินเล่น ชมตะวันตกดินกันด้วย

หลังจากนั้นจะปั่นไปต่อ จนถึงแวะพักจุดที่ 2 คือ ถ้ำอุไรทอง เป็นเทือกเขาหินปูนตั้งโดดเด่นในตำบลกำแพง ยอดเขาส่วนที่สูงที่สุดประมาณ 90 เมตร ด้านล่างมีอุโมงค์ถ้ำลอด (ผ่านภูเขา) ยาวประมาณ 50 เมตร สามารถเดินทะลุได้ ด้านนอกมีบันใดขึ้นไปสู่ถ้ำด้านบน ที่สามารถเดินชมหินงอกหินย้อยที่สวยงามได้อย่างสบาย รวมทั้งมีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแหล่งของอุทยานธรณีโลกโดยมีตำนานที่เล่าว่า เมื่อก่อนนี้บริเวณนี้เป็นทะเลและมีเรือสำเภามาจอด ในเรือสำเภามีทรัพย์สินมีค่า ทองคำมากมาย ถูกนำมาเก็บไว้ในถ้ำอุไรที่มาจากภาษามาเลย์ที่แปลว่า “ทอง” ภายในถ้ำอุไรทอง มีถ้ำที่สวยงามอยู่ 3 ถ้ำ และถ้ำอุไรเป็นถ้ำใหญ่ที่สุด เป็นแหล่งที่พบกระดูกมนุษย์โบราณและกระดูกสัตว์ และมีถ้ำเล็ก ๆ คือถ้ำสำเภา เป็นแหล่งพบหอยโบราณ และถ้ำลูกสาว ที่เป็นแหล่งพบกระดูกสัตว์โบราณ

ซึ่งการปั่นครั้งนี้ จะมี โย ยศวดี หัสดีวิจิตร ดารานางแบบนักกีฬาและนักปั่นสาวสวย ร่วมปั่นด้วย จำนวนระยะทาง 48 กิโลเมตร
โดยในงานนี มีกิจกรรมเด่นๆมากมาย อาทิ เป็นการปั่นร่วมนโยบาย ชิม ช้อป ใช้ นักปั่นที่เข้าพักค้างคืนโรงแรมในจังหวัดที่ไปปั่น ให้นำใบเสร็จค่าโรงแรมมาแลกคืนเงินจำนวน 200 บาทต่อ 1 ใบเสร็จ สงวนสิทธิ์ให้แลกเพียง 100 คนแรกเท่านั้น รวมถึง ให้ชุมชนท้องถิ่นมาออกร้านขายของได้ เป็นการกระตุ้นเศษฐกิจชุมชน ให้นักปั่นได้ช้อปปิ้งสินค้าภายในชุมชน ได้อีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีกิจกรรม CSR มอบเงินอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนในชุมชน โรงเรียนละ 10,000 บาท ต่อจังหวัด รางวัลกิจกรรม ปั่น ชม แชร์ ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว มอบรางวัลละ 10,000 บาท แบ่งเป็น ชาย 5,000 บาท หญิง 5,000 บาท
ติดตามรายละเอียดการสมัครที่ Page Facebook “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง”
เพจเดียวเท่านั้น

#เที่ยวไทยฯลฯ #อื่นๆอีกมากมายท้าทายให้สัมผัส #ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว #ปั่นปันรักพักภาคใต้
#amazingไทยเท่ #ชีพจรลงSouth

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *