ตามนโยบายของรัฐบาล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยโดยการแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคงต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สนองนโยบายรัฐบาล ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ,พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ทท. ,พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. ,

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 , พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 , พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1 บก.ทท.1. และ พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี ผกก.สน.พระโขนง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกปฏิบัติการออกระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยการบูรณาการร่วมหน่วยต่าง ๆ

วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๒ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ส.ทท.๒ กก.๑ บก.ทท.๑ , สตม. และ สน.พระโขนง ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาล้วงกระเป๋า จำนวน 3 ราย ดังนี้
1. Mr.Ichinkhorloo Munkhbaya หรือ นายอิคชินกอรู มังปายา อายุ 26 ปี สัญชาติมองโกเลีย ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.201/๒๕๖๒ ลง 27 มีนาคม ๒๕๖๒ ( เข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน ๒ ครั้ง )
2. Mr.Gansukh Ikhbayar หรือ นายกานซัค อิกปายา อายุ 27 ปี สัญชาติมองโกเลีย ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.202/๒๕๖๒ ลง 27 มีนาคม ๒๕๖๒

( เข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน ๑ ครั้ง )
3. Mr.Batsuren Erdenebaya หรือ นายปาสุเรน เออเดนปายา อายุ 27 ปี สัญชาติมองโกเลีย ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.203/๒๕๖๒ ลง 27 มีนาคม ๒๕๖๒ ( เข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน ๔ ครั้ง )
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์”
พฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ ๑1 มีนาคม ๒๕๖๑ เวลาประมาณ 18.2๐ น. ผู้เสียหายได้ขึ้นสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส สถานีทองหล่อ

กำลังจะเข้าขบวนรถไฟฟ้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีอ่อนนุช คนร้าย สัญชาติ มองโกเลีย ได้เดินตามผู้เสียหายเข้าไปในขบวนรถไฟฟ้า และลักทรัพย์ผู้เสียหายภายในขบวน โดยมีทรัพย์สินสูญหายไปดังนี้

๑. กระเป๋าเงิน สีเทา จำนวน ๑ ใบ
๒. เงินสกุลไทย จำนวน ๒,000 บาท
๓. บัตรเดบิตต่าง ๆ จำนวน 4 ใบ
๔. เอกสารส่วนตัว
ต่อมาเวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ได้ตรวจสอบถังขยะบริเวณลานสกายวอล์ค สยามดิสคอเวอร์รี่ พบกระเป๋าเงินของผู้เสียหายทิ้งอยู่ในถังขยะดังกล่าว จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่า คนร้าย สัญชาติ มองโกเลีย จำนวน ๓ คน ได้นำกระเป๋าเงินมาทิ้งไว้ในถังขยะดังกล่าว ก่อนจะหลบหนีไป
จากการสอบถามผู้ก่อเหตุให้การว่า มักจะเลือกก่อเหตุล้วงกระเป๋าตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ห้างสรรพสินค้า และตามสถานีรถไฟฟ้า โดยเลือกเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไม่ทันระวังตัว และชาวต่างชาติ เนื่องจากไม่ค่อยแจ้งความดำเนินคดี

ข้อสังเกต
1) เป็นกรณีที่คนร้ายชาวต่างชาติ ก่อเหตุในประเทศไทย ที่ผ่านมามีการจับกุมแก๊งล้วงกระเป๋าชาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย เวียดนาม
2) การก่อเหตุดังกล่าวส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กระทบถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย
3) คนร้ายมักเลือกก่อเหตุกับชาวต่างชาติ เนื่องจากชาวต่างชาติมักจะไม่สามารถสื่อสารได้ง่าย หรือผู้ที่ไม่ได้ระมัดระวังทรัพย์สิน
4) เบี้ยประกันภัยทรัพย์สิน ที่นักท่องเที่ยวต้องจ่ายสูงขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
5) บางครั้งคนร้ายได้เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และหมายเลขพาสปอร์ต แล้วเดินทางเข้ามาก่อเหตุ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ หากมีการนำระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometric) มาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันคนร้ายมากขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *