สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติ
การกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.๙
ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว
โ
ดยในวันนี้ (๑๕ ก.พ.๖๒) เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร., พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.๙, พ.ต.อ.ภูวนาถ ฤทธาเวช รอง ผบก.น.๙ ,พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.ปส.,พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. ๕ บก.จร.,พ.ต.อ.กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ ผกก.ฝอ.บก.จร.,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.๒ บก.จร. แถลงผลการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากชุดปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,กองบัญชาการตำรวจนครบาล,กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด,
กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.๙ และจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแอดมินโพสชักชวนแข่งรถในทางตามหมายจับ และเด็กและเยาวชนที่ออกมารวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะจึงได้รวบรวมผลการปฏิบัติดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้
– ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน ๑ ราย จากการสืบสวนทราบว่ามี เพจเฟสบุ๊คชื่อ “ฮิปโปรซิ่ง ประเทศนนท์” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในพื้นที่รอยปริมณฑลต่างจังหวัด ในผู้ติดตามกว่า ๓๐๐ คนซึ่งโดยในการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกันมากกว่า ๑๐๐ คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายชัยธวัช ปรีประดิษฐ์ อายุ ๒๓ ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ ๙๖ เพจที่ ๑๑๒ ที่มีการถูกปิดไป
– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย ๔๑ ร้าน พบการกระทำความผิด ๕ ร้านและยึดท่อไอเสียของกลางมาเพื่อตรวจสอบ ๓๐ รายการ
– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดกวดขันวินัยการจราจรตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ที่กระทำความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก ทั้งสิ้น ๙๙ คัน
– ตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ ๒๒ และ ๔๖/๒๕๕๘ โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน ๗๐ คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ๕๗ คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ๑๓ คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน ๒๒ ราย ผู้ใหญ่ ๕๔ ราย รวมทั้งหมด ๗๖ ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ผลการปฏิบัติไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะเยาวชนและผู้ใหญ่
จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป
นักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติ
การกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.๙
————————————————————————————————————————–
ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว
โดยในวันนี้ (๑๕ ก.พ.๖๒) เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร., พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.๙, พ.ต.อ.ภูวนาถ ฤทธาเวช รอง ผบก.น.๙ ,พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.ปส.,พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. ๕ บก.จร.,พ.ต.อ.กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ ผกก.ฝอ.บก.จร.,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.๒ บก.จร. แถลงผลการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากชุดปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,กองบัญชาการตำรวจนครบาล,กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด,กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.๙ และจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแอดมินโพสชักชวนแข่งรถในทางตามหมายจับ และเด็กและเยาวชนที่ออกมารวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะจึงได้รวบรวมผลการปฏิบัติดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้
– ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน ๑ ราย จากการสืบสวนทราบว่ามี เพจเฟสบุ๊คชื่อ “ฮิปโปรซิ่ง ประเทศนนท์” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในพื้นที่รอยปริมณฑลต่างจังหวัด ในผู้ติดตามกว่า ๓๐๐ คนซึ่งโดยในการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกันมากกว่า ๑๐๐ คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายชัยธวัช ปรีประดิษฐ์ อายุ ๒๓ ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ ๙๖ เพจที่ ๑๑๒ ที่มีการถูกปิดไป
– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย ๔๑ ร้าน พบการกระทำความผิด ๕ ร้านและยึดท่อไอเสียของกลางมาเพื่อตรวจสอบ ๓๐ รายการ
– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดกวดขันวินัยการจราจรตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ที่กระทำความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก ทั้งสิ้น ๙๙ คัน
– ตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ ๒๒ และ ๔๖/๒๕๕๘ โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน ๗๐ คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ๕๗ คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ๑๓ คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน ๒๒ ราย ผู้ใหญ่ ๕๔ ราย รวมทั้งหมด ๗๖ ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ผลการปฏิบัติไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะเยาวชนและผู้ใหญ่
จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป