วันที่ 13 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) ,พล.ต.ต พนัญชัย ชื่นใจธรรม

ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ เลขานุการกรม สำนักงานปปง. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย

รองผกก.สน.ห้วยขวาง สนธิกำลัง พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 ภ.4 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.สภ.ภูผาม่าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย

ผกก.สภ.บ้านเป็ด พ.ต.ท.ธนารัตน์ มีทองหลาง รองผกก.สส.สภ.ชนบท พ.ต.ท.จามร อันดี รองผกก.ป.สภ.ท่าพระ สนธิกำลังศปอส.ตร. ตำรวจจบช.ภ.5 ปูพรมตรวจค้น24จุด 17 กลุ่มนายทุนใน 4 จังหวัด ในพื้นที่เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา และ ลำพูน ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ

โดยในจังหวัดพะเยา ตรวจค้น 999คาร์เซ็นเตอร์หรือพะเยา 999 ลิสซิ่ง ซึ่งตั้งอยู่ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา เบื้องต้นพบการกระทำความผิดมีการแก้ไขข้อความในสัญญาเงินกู้ที่ลูกหนี้ได้การนำโฉนดที่ดินมาค้ำประกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดโฉนดที่ดิน 35 ฉบับเนื้อที่รวม 110 ไร่ ราคาประมาณ 30 ล้านบาท ไปทำการตรวจสอบ ในส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น 10 จุด ซึ่งเป็นเครือข่ายนายทุน4 กลุ่ม ประกอบไปด้วย บริษัทเมืองไทยแคปปิตอล เชียงใหม่,บริษัทชนะกิจลิสซิ่ง จำกัด หจก.เวียงพิงค์ไอซ์ เลขที่238/18-20หมู่6 หมู่บ้านศิริวัฒนานิเวศน์ ต.หนองหอย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีนายพิบูลย์ และนางมยุรี วิริยะชินการ สองสามีภรรยาเป็นนายทุน รวมทั้งตรวจค้นบ้านเลขที่12/3

หมู่6ตำบลและอำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ โดยมีน.ส.แดงน้อย อุตเจริญ เป็นนายทุน โดยเบื้องต้นยึดโฉนดที่ดินจำนวน 50 ฉบับ เนื้อที่รวม 120 ไร่ 2 งาน ราคาประมาณ 50 ล้านบาท และเอกสารสัญญาการกู้เงินและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับจังหวัดลำปางและลำพูนได้ยึดเอกสารสัญญาเงินกู้ที่เกี่ยวข้องไปทำการตรวจสอบ

อีกส่วนได้เข้ายึดอายัดทรัพย์สินของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.พะเยากับพวก ในอำเภอจุนและอำเภอเชียงคำหลังพบความผิดในลักษณะร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากพบการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ถูกนายวิสุทธิ์ กับพวก หลอกชักชวนให้ร่วมลงทุนในหุ้นน้ำมัน 4 ประเทศ โดยได้ยึดอายัดทรัพย์สินเป็นบ้าน 3 หลัง รถยนต์ 4 คัน อายัดบัญชีธนาคาร 5 บัญชี ร้านคาร์แคร์ 1 แห่ง มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ เร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไข จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมาย คืนที่ดินให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากทำให้สถานการณ์ขณะนี้ในพื้นที่ภาคอีสานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังพบว่าในพื้นที่ภาคเหนือชาวบ้านได้รับผลกระทบจากลิสซิ่งที่ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมาย ทำให้ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจับกุมยึดอายัดทรัพย์นายทุนในภาคเหนือ เพื่อนำโฉนดคืนกับพี่น้องประชาชน ซึ่งในวันนี้ได้ตรวจค้น 24 จุด ยึดอายัดทรัพย์ 3 จุด ที่พบว่าเป็นเรื่องหนี้นอกระบบและฉ้อโกงประชาชน

ในส่วนพื้นที่จ.พะเยานั้น มีการตรวจค้นนายทุนเงินกู้ รวมทั้งมีการยึดทรัพย์ ผู้สมัครสส.พรรคการเมืองหนึ่ง ในจ.พะเยา หลังเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน โดยยึดทรัพย์ 170 ล้าน อย่างไรก็ตามการทำงานวันนี้ยึดหลักประชาชนเป็นที่ตั้ง และไม่เลือกปฎิบัติจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เป็นธรรมและเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าปัญหาหนี้นอกระบบได้สร้างปัญหาก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม โฉนดที่ดินตกอยู่ในกลุ่มนายทุนเพียงไม่กี่คน หนำซ้ำยังเอาเปรียบลูกหนี้ โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจังเพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำภาคการเกษตร เพื่อมีที่ทำกินเลี้ยงชีพ และอยู่กันพร้อมหน้าเหมือนสังคมเมื่อก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการความเข้มข้นในการดำเนินการ โดยนำมาตรการทางกฎหมายเข้ามาใช้สามส่วนประกอบไปด้วย มาตรการทางภาษีของกรมสรรพากร มาตรการยึดทรัพย์ของสำนักงานปปง. และมาตรการกฎหมายอาญาฟอกเงิน เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่เน้นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยในวันที่14 มี.ค.ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบโฉนดคืนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบและนายทุนดอกเบี้ยโหด ครั้งที่9 ที่ จ.เชียงใหม่ จำนวน 673 ฉบับเนื้อที่ 670 ไร่ 2 งาน 85.2 ตารางวา มูลค่ากว่า711,444,235 บาท
และภาพรวมทั่วประเทศกว่าจำนวน 1,087 ฉบับ
เนื้อที่ 1,248 ไร่ 1 งาน 68.2 ตารางวา มูลค่า1,182,821,518 บาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *